คุณจองรถจีนหรือยัง? ไทยผงาดนำเข้ารถจากแดนมังกรสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก

เผยตัวเลขการนำเข้ารถพลังงานใหม่จากจีนสู่ไทยเติบโตก้าวกระโดดไปอยู่ที่ 59,375 คัน ระหว่างเดือนมกราคมถึงกันยายนของปีนี้

ข้อมูลจากสมาคมรถยนต์นั่งของจีน (China Passenger Car Association) ระบุว่า การนำเข้ารถพลังงานใหม่ซึ่งครอบคลุมรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดจากจีนมายังไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 176% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

นั่นทำให้ไทยผงาดขึ้นติดท็อป 3 ประเทศที่มีการนำเข้ารถจากจีนมากที่สุดในโลก เป็นรองแค่ประเทศเบลเยี่ยมและสหราชอาณาจักรเท่านั้น

การเติบโตของตลาดรถยนต์พลังงานทางเลือกอย่างก้าวกระโดดส่วนหนึ่งมาจากการผลักดันด้วยนโยบายของรัฐบาลไทย โดยเฉพาะการปรับมาตรการด้านภาษีใหม่เพื่อกระตุ้นยอดขายอย่างเต็มที่ และการกำหนดเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางของรถยนต์ไฟฟ้าในอาเซียน

มุ่งสู่เป้าหมายขายรถอีวีเท่านั้น

รัฐบาลไทยประกาศนโยบายสุดทะเยอทะยานด้วยการวางเป้าหมายขายแต่รถยนต์ไฟฟ้าอย่างเดียวตั้งแต่ปี 2035 เป็นต้นไป และต้องการยกระดับกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าให้ถึง 700,000 คันภายในช่วงปลายทศวรรษหน้าหรือปี 2040

รายงานข่าวระบุว่า รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นเล็กอย่าง Hozon Auto Neta V มียอดขายจนถึงปัจจุบันสูงกว่า 5,000 คัน ส่วนหนึ่งเป็นเพราะราคาจำหน่ายช่วงแนะนำเคาะแบบเอื้อมถึงได้ที่ 549,000 บาท

ความต้องการเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าในบ้านเรายังคงมาแรงไม่มีตก เห็นได้จากการเข้าคิวรอข้ามคืนเพื่อจับจอง BYD Atto 3 อันเป็นปรากฎการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ถึงแม้จะมีค่าตัวสูงถึง 1.2 ล้านบาทแต่ก็ยังกวาดยอดจองไปได้ที่ 2,507 คัน

ผู้บริหารของเรเว่ ออโตโมทีฟ ผู้แทนจำหน่ายรถอีวี BYD เปิดเผยว่าการที่มีผู้ให้ความสนใจมาจองรถกันตามที่มีกระแสข่าวว่ามาจองกันตั้งแต่ 2 ทุ่มของคืนก่อนเปิดรับจองนั้น น่าจะมีปัจจัยหลายประการ เช่น การที่ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยมีสินค้าที่น้อยกว่าความต้องการมาโดยตลอด รวมถึงปัจจัยด้านราคาน้ำมันที่ทำให้คนหันมาสนใจอีวีกันมากขึ้น

“นอกจากนี้ยังเป็นเรื่องของสมรรถนะและออปชั่นของรถยนต์ที่เหนือกว่าคู่แข่งที่ระดับราคาเดียวกัน ซึ่งจริง ๆ แล้วทีมงานก็มีการประเมินความต้องการของตลาดอยู่บ้าง แต่การที่มาจองคิวกันข้ามคืนแบบนี้ก็ถือเป็นเรื่องเซอร์ไพร์สเหมือนกัน” ผู้บริหารของเรเว่ ออโตโมทีฟ กล่าง

ขณะเดียวกัน ผู้บริหารของเรเว่ ยังเผยว่าแนวโน้มของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยในปี 2566 จะเป็นปีที่มีสีสันทางการตลาดเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากจะมีคู่แข่งรายใหม่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น ขณะที่แนวโน้มราคาแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าก็เริ่มถูกลงเรื่อย ๆ โดยหากไปดูจะพบว่าราคาลดลงกว่า 60% ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา

“การที่มีรถยนต์ไฟฟ้ามาบนถนนมากขึ้น ก็จะช่วยคลายความกังวลในการใช้งานรถยนต์กลุ่มเหล่านี้ ทำให้มองว่าตลาดจะเป็นตลาดที่มีสีสัน น่าจะเห็นตัวเลขที่สนุก ๆ และแน่นอนว่า ลูกค้าจะได้สัมผัสกับรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้นในระยะเวลาที่สั้นลง” ผู้บริหารของเรเว่ กล่าวเพิ่มเติม

Source: คุณจองรถจีนหรือยัง? ไทยผงาดนำเข้ารถจากแดนมังกรสูงเป็นอันดับ 3 ของโลก