เมื่อเบรกเฟด เราจะใช้ “เบรกมือไฟฟ้า” หยุดรถได้อย่างไร ต่างจากเบรกมือกลไกทั่วไปหรือไม่

  • ดึงเบรกมือไฟฟ้าขึ้นหลาย ๆ ครั้งเพื่อหยุดรถ?
  • อย่าเปลี่ยนเกียร์ไป P หรือ R เพื่อหยุดรถ
  • เข้าข้างทางให้ปลอดภัย

สิ่งที่เราเรียกว่า “เบรคมือ” นั้นสามารถทำหน้าที่เป็นเบรคเวลาฉุกเฉินได้เวลาที่เบรคของรถเกิดอาการเฟดขึ้นมา ควบคู่กันกับการใช้เอนจิ้นเบรก

ทุกวันนี้ รถยนต์เริ่มมีออพชั่นเบรคมือไฟฟ้าเข้ามาอย่างแพร่หลายมากขึ้น ทำให้ “เบรคมือ” ที่เป็นแบบดึงขึ้นและแบบที่ใช้เท้าเหยียบนั้นเริ่มน้อยลง

ทำให้ใครหลายคนเกิดความสงสัยว่าเบรกมือไฟฟ้าจะสามารถใช้ในเวลาฉุกเฉินได้เหมือนเบรกมือแบบกลไกหรือไม่ เราสามารถหยุดรถในกรณีที่เบรกรถเฟดด้วยเบรคมือไฟฟ้าได้อย่างไรบ้าง

ดึงเบรกมือไฟฟ้าขึ้นหลาย ๆ ครั้งจะช่วยได้ไหม

เบรกมือแบบกลไก แรกเริ่มเดิมทีนั้นมีลักษณะเป็นด้าม ใช้มือจับดึงสายสลิงเชื่อมต่อกับเบรกล้อ ทำให้ไปขัดการหมุนอย่างสนิททันทีตามแรงดึงของมือเรา ต่อมาพัฒนาเป็นแป้นใช้เท้าซ้ายเหยียบลงไป ซึ่งตัวแป้นเบรคมืออยู่ห่างจากแป้นเบรคปกติ ทำให้ต้องยกขาสูงขึ้นมาเหยียบลงไป แต่ก็ยังได้ชื่อว่าเป็น เบรคมือ

ส่วนเบรกมือไฟฟ้า นั้นลักษณะเป็นสวิตช์ขนาดเล็กอยู่บนคอนโซลกลาง หรือคอนโซลฝั่งคนขับ ใช้นิ้วมือกดขึ้นเพื่อเปิดการทำงาน ให้ไฟฟ้าแล่นไปสั่งมอเตอร์หมุนเฟืองไปหนีบเบรคล้อหลังเอาไว้ แต่ยังถูกควบคุมด้วยเซนเซอร์จับความเร็วอีกที ก่อนจะส่งแรงไปหมุนมอเตอร์ไฟฟ้าด้วย

เบรกมือไฟฟ้าในรถบางคันถูกตั้งค่าไว้ให้ไม่ทำงานเมื่อขับขี่เพื่อป้องกันอันตรายโดยไม่หนีบเบรคล้อหลังค้างเอาไว้ โดยเบรกมือจะทำงานขึ้นตอนที่เราดึงสวิตช์ขึ้นมา แต่จะปลดออกตอนที่เราเอามือออกจากสวิตช์ เมื่อเบรกรถของเราเกิดเฟดขึ้น เราอาจใช้วิธีดึงสวิตช์เบรกมือไฟฟ้าขึ้นหลาย ๆ ครั้ง

แต่เบรกมือไฟฟ้าในรถบางคันสามารถรู้ถึงเจตนาของเรา ทำให้การดึงสวิตช์เบรกมือไฟฟ้าขึ้นหลาย ๆ ครั้ง สมองกลของรถจะช่วยหยุดรถให้เราด้วยการตัดการเร่งความเร็ว ควบคุมเครื่องยนต์ และควบคุมการเบรกของทั้งสี่ล้อ

อย่างไรก็ตาม รถแต่ละคันนั้นมีการทำงานของเบรกมือไฟฟ้าที่ต่างกัน เราสามารถศึกษาวิธีการทำงานของเบรคมือไฟฟ้าของรถแต่ละรุ่นได้ที่คู่มือของรถ หรือสอบถามตัวแทนจำหน่ายเกี่ยวกับเรื่องนี้จะดีกว่า หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินจะได้รับมือได้ทันท่วงที

เบรคไม่อยู่ อย่าเปลี่ยนเกียร์ไป P หรือ R เพื่อหยุดรถโดยเด็ดขาด

หากเบรกใช้งานไม่ได้ การเปลี่ยนเกียร์เพื่อไม่ให้เครื่องยนต์เชื่อมกับระบบส่งกำลังให้เป็น P หรือ R อาจเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้ แต่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้พวงมาลัยล็อคและเราจะควบคุมรถไม่ได้เลย ซึ่งจะเสี่ยงต่ออุบัติเหตุมากกว่าเดิม

โดยหากเป็นรถที่มีเบรกมือไฟฟ้า การเข้าเกียร์ P ขณะที่รถเคลื่อนที่อยู่ รถจะเข้าใจว่าเป็น “การทำงานที่ผิดพลาด” และทำให้ระบบของรถถูกล็อค กล่าวคือ การเข้าเกียร์ P นั้นไม่ทำให้รถค่อย ๆ ลดความเร็วลงแต่อย่างใด และอย่าพยายามที่จะดับเครื่อง เพราะจะทำให้เราควบคุมรถไม่ได้เนื่องจากพวงมาลัยจะถูกล็อค และเราจะไม่สามารถควบคุมรถได้เลย

พยายามเข้าข้างทางให้ได้อย่างปลอดภัย

หากเบรกมือไฟฟ้าไม่สามารถทำให้รถของเราหยุดได้ สิ่งสุดท้ายที่เราจะทำได้คือ ขับรถลงข้างทางในบริเวณที่จะเสียหายน้อยที่สุด เช่น ถนนขรุขระ ที่สร้างแรงเสียดทานได้มากกว่า 

นอกจากนี้ เราสามารถใช้ราวกั้นเพื่อช่วยลดความเร็วของรถลงได้โดยการใช้ด้านข้างของรถถูไปราวกั้นเพื่อเพิ่มอรงเสียดทานให้มากที่สุด หากมีคนนั่งไปด้วย ให้พวกเขาคาดเข็มขัดนิรภัยให้ดีและป้องกันหัวและร่างกายให้ดี และควรหยุดรถในทางตรงจะดีกว่าทางโค้งเพราะอาจมีโอกาสที่รถจะเสียหลักได้

หลังจากหยุดรถแล้ว ให้หมุนพวงมาลัยไปทางราวกั้นหรือข้างถนน และอย่าลืมใส่เกียร์จอดหรือตำแหน่ง P

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ อย่างมีสติ การมีสติจะทำให้เราทำทุกอย่างตามขั้นตอนและจะช่วยลดความสูญเสียได้ไม่มากก็น้อย

 

Source: เมื่อเบรกเฟด เราจะใช้ “เบรกมือไฟฟ้า” หยุดรถได้อย่างไร ต่างจากเบรกมือกลไกทั่วไปหรือไม่