- บางโครงการจากปีที่แล้วไม่ได้ไปต่อ
- พัฒนาแพลทฟอร์มรถไฟฟ้ารุ่นต่อไป ถัดจาก e-TNGA
- ใช้ Tesla เป็นมาตรฐาน
- ทีมพัฒนาแผนอีวีใหม่เป็นใคร
- เปลี่ยนอะไรบ้าง
Toyota (โตโยต้า) กำลังพิจารณาแผนการรถยนต์ไฟฟ้าใหม่เพื่อเพิ่มการแข่งขันในตลาดได้มากขึ้น โดยได้หยุดการผลิตโครงการรถยนต์ไฟฟ้าบางส่วนไปแล้ว
ข้อเสนอของแผนการใหม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา หากได้รับการอนุมัติจะทำให้ Toyota มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมากและเป็นการเปลี่ยนแผนการลงทุนกว่า 2 ล้านล้านบาทใหม่ให้สามารถแข่งขันกับ Tesla (เทสล่า) ได้มากขึ้น
ผู้ที่รู้เกี่ยวกับแผนพัฒนาครั้งนี้กล่าวว่า คณะทำงานหนึ่งภายในโตโยต้าถูกบังคับให้ร่างแผนการใหม่ภายในต้นปีหน้าเพื่อปรับปรุงแพลทฟอร์มอีวีที่มีอยู่หรือสร้างแพลทฟอร์มใหม่ขึ้นในอนาคต
บางโครงการจากแผนเมื่อปีที่แล้วไม่ได้ไปต่อ
ระหว่างการร่างแผนการใหม่นั้น Toyota ประกาศหยุดการทำงานโครงการรถยนต์ไฟฟ้าบางโครงการที่มีในปัจจุบันที่ได้ประกาศไปเมื่อเดือนธันวาคมของปีที่แล้ว ซึ่งจากแหล่งข่าวและเอกสารที่ตรวจสอบโดยรอยเตอร์สระบุว่า โครงการที่จะไม่ได้ไปต่อในตอนนี้ ได้แก่ Toyota Compact Cruiser และ Toyota Crown ที่ใช้ขุมพลังไฟฟ้าล้วน
Toyota กล่าวว่าบริษัทมีแผนที่จะเป็นกลางทางคาร์บอน แต่ยังไม่สามารถให้รายละเอียดได้ในตอนนี้
บริษัทได้กล่าวกับรอยเตอร์สว่า “เพื่อให้ได้เป้าหมายคาร์บอนเป็นกลางแล้ว สิ่งที่จำเป็นต้องทำคือ การสร้างเทคโนโลยีใหม่ของ Toyota เอง รวมถึงงานที่เราทำร่วมกับพันธมิตรและซัพพลายเออร์หลายราย”
แหล่งข่าวที่รู้เกี่ยวกับแผนพัฒนาครั้งนี้ปฏิเสธที่จะตอบว่ามีการร่วมมือกับใครบ้างเนื่องจากแผนการใหม่นั้นยังไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะ
การปรับเปลี่ยนแผนครั้งนี้อาจทำให้การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าใหม่ชะลอตัวลง แต่สิ่งนี้ยังเปิดโอกาสให้โตโยต้าแข่งขันด้วยกระบวนการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เนื่องจากยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าของทั้งอุตสาหกรรมนั้นเติบโตมากเกินกว่าที่โตโยต้าคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ การปรับแผนของค่ายสามห่วงอาจถูกวิพากษ์วิจารณ์จากนักลงทุนและกลุ่มผู้รักสิ่งแวดล้อม ว่าค่ายรถที่เคยเป็นที่รักกับนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ได้ยอมรับรถยนต์ไฟฟ้าช้ากว่าใครเพื่อน
อ่านเพิ่มเติม : Toyota เผยโฉมรถยนต์ไฟฟ้า 15 รุ่น พร้อมทุ่มเงินลงทุน 2 ล้านล้านบาท
พัฒนาแพลทฟอร์มรถไฟฟ้ารุ่นต่อไป ถัดจาก e-TNGA
แหล่งข่าวยังเผยว่า ในการพิจารณาครั้งนี้ Toyota เตรียมที่จะหาผู้สืบทอดแพลทฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นต่อไปจากที่มีในปัจจุบันอย่าง e-TNGA ซึ่งเปิดตัวในปี 2019 โดยแพลทฟอร์มอีวีใหม่นั้นจะทำให้อีวีของค่ายมีต้นทุนที่ถูกลง
สำหรับรถคันแรกที่ใช้แพลทฟอร์มอีวี e-TNGA นั่นคือครอสโอเวอร์อย่าง bZ4X ซึ่งเริ่มทำตลาดเมื่อต้นปีที่ผ่านมาแต่ได้หยุดการผลิตชั่วคราวเพื่อเรียกคืนจากปัญหาที่เกิดขึ้นในเดือนมิถุนายน และกลับมาผลิตอีกครั้งเมื่อต้นเดือนนี้
อ่านเพิ่มเติม : เผยวิธี Toyota bZ4X แก้ปัญหาล้อหลุด สั่งรื้อและออกแบบใหม่หมด
ใช้ Tesla เป็นมาตรฐาน
การพิจารณาแผนพัฒนารถยนต์ไฟฟ้าใหม่ส่วนหนึ่งนั้นมาจากการที่วิศวกรและผู้บริหารของ Toyota ตระหนักว่า Toyota จะต้องแพ้ในเรื่องต้นทุนจากโรงงานสำหรับอีวีแก่ Tesla หากไม่มีการเปลี่ยนแปลง
แหล่งข่าวระบุว่า Toyota คาดการณ์ถึงความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าว่าจะเติบโตขึ้นเป็นเวลาหลายทศวรรษ
โดย Toyota ได้ออกแบบแพลทฟอร์ม e-TNGA ให้สามารถอยู่ในสายการผลิตเดียวกันกับรถน้ำมันและไฮบริดได้ ทำให้สอดคล้องกับเป้าหมายในตอนแรกที่ว่า Toyota ควรจะต้องขายรถยนต์ไฟฟ้าได้ประมาณ 3.5 ล้านคันต่อปี ภายในปี 2030 ซึ่งคิดเป็น 1 ใน 3 ของยอดขายโตโยต้าทั่วโลกในปัจจุบัน เพื่อให้สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้
แต่ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในตลาดนั้นเติบโตขึ้นเร็วกว่าที่คิดไว้มาก เหล่าผู้ผลิตรถยนต์ทั่วโลกจึงคาดการณ์ให้แผนของค่ายตัวเองมียอดขายมากกว่าครึ่งหนึ่งของการผลิตทั้งหมดภายในปี 2030 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกระแสการลงทุนทั่วทั้งอุตสาหกรรมซึ่งขณะนี้มีมูลค่ารวม 1.2 ล้านล้านดอลลาร์
ทีมพัฒนาแผนอีวีอันใหม่
ผู้นำการพิจารณาแผนอีวีใหม่ในครั้งนี้คือ Shigeki Terashi อดีตซีซีโอของโตโยต้า รวมทั้งอีกหกคนที่มีความรู้ในด้านนี้ ซึ่งในทีมนี้มีสองคนที่ใกล้ชิดกับ Toyota โดยตอนนี้ Terashi ยังไม่ขอออกความคิดเห็นต่อคำถามที่เกี่ยวกับการพิจารณาแผนใหม่นี้
ทีมของ Terashi ถูกกำหนดให้เป็นกลุ่มที่ชื่อว่า “BR” หรือ “การปฏิวัติธุรกิจ” ภายใน Toyota ซึ่งเป็นคำที่ใช้สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งรวมถึงการปรับปรุงกระบวนการพัฒนาและกระบวนการผลิตที่เคยทำเมื่อประมาณ 20 ปีที่แล้ว
“สิ่งที่ขับเคลื่อนความพยายามของคุณ Terashi คือการเติบโตที่คาดไม่ถึงของรถยนต์ไฟฟ้าและการนำนวัตกรรมล้ำสมัยมาใช้อย่างรวดเร็วของ Tesla และค่ายรถอื่น ๆ” หนึ่งในทีมงานกล่าว โดยทีมงานทั้งหกคนนั้นปฏิเสธที่จะเปิดเผยตัวตนเนื่องจากเป็นความลับของบริษัท
ต่อยอดแพลทฟอร์มเดิมจะเสียเวลาน้อยกว่า
แหล่งข่าวยังกล่าวว่า ทีมของ Terashi กำลังพิจารณาทางเลือกในการยืดอายุการใช้งานแพลทฟอร์ม e-TNGA โดยการจับคู่กับเทคโนโลยีใหม่ ๆ
แม้ Terashi ยังสามารถเลือกที่จะยกเลิกการใช้ e-TNGA ให้เร็วขึ้นได้และสร้างแพลทฟอร์มอีวีใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบขึ้นมาแทน แต่จะใช้ต้องเวลาประมาณ 5 ปีเพื่อสร้างรถรุ่นใหม่ขึ้นมา ซึ่งหนึ่งในทีมงานกล่าวว่า “เรามีเวลาให้เสียน้อยมาก”
ลดต้นทุนจากการผลิต
Toyota กำลังทำงานร่วมกันซัพพลายเออร์และกำลังพิจารณานวัตกรรมของโรงงานเพื่อลดต้นทุนเช่น ในโรงงาน Tesla Giga Press ซึ่งเป็นสายการผลิตขนาดใหญ่ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในโรงงานของเทสลา
แหล่งข่าวเดิมระบุว่า สิ่งที่ได้รับการพิจารณาอีกหนึ่งอย่างคือแนวทางการจัดการความร้อนของอีวีที่ครอบคลุมมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ระบบปรับอากาศในห้องโดยสารและการควบคุมอุณหภูมิของระบบขับเคลื่อนไฟฟ้า ซึ่งเป็นสิ่งที่ Tesla ทำอยู่แล้วตอนนี้
หากการจัดการความร้อนดีขึ้นจะทำให้ Toyota สามารถลดขนาดและน้ำหนักของแบตเตอรี่และสามารถลดต้นทุนได้หลักพันดอลล่าร์ต่อคันเลยทีเดียว ทำให้ Toyota “มีความสำคัญสูงสุด” สำหรับซัพพลายเออร์อย่าง Denso และ Aisin โดยซัพพลายเออร์ทั้งสองยังไม่มีความคิดเห็นอะไรในตอนนี้
ไม่มีใครรู้อนาคต
เราต้องยอมรับว่า Toyota ตอนนี้ยังเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุด แต่ Tesla ก็ได้สร้างมาตรฐานใหม่สำหรับต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
แหล่งข่าวระบุว่า เมื่อราว 10 ปีที่แล้ว Toyota เข้าถือหุ้นกับ Tesla และร่วมมือกันผลิต RAV4 เวอร์ชั่นไฟฟ้าล้วนขึ้นมา ขณะนั้นวิศวกรของโตโยต้ายังเชื่อว่าเทคโนโลยีของเทสล่านั้นไม่มีพิษภัยอะไร โดยหนึ่งในนั้นระบุว่า “พวกเขาคิดว่าไม่มีอะไรที่ต้องเรียนรู้มากนัก”
หลังจากนั้น Toyota ได้ยุติการทำตลาด RAV4 เวอร์ชั่นไฟฟ้าไปในปี 2014 และขายหุ้นของ Tesla ไปในปี 2017
หลังจากนั้นในปี 2018 Toyota จึงเพิ่งจัดตั้งแผนกที่เกี่ยวกับการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ขึ้นโดยเฉพาะและเริ่มสร้างแพลทฟอร์มรถยนต์ไฟฟ้า ขณะที่ Tesla ขายรถไฟฟ้าไปแล้วสามรุ่น
Source: จะตามคู่แข่งทันไหม? – Toyota เตรียมรื้อแผนพัฒนารถไฟฟ้าใหม่ ให้ Tesla เป็นแบบอย่าง
More Stories
Billionaire Studios Clothing: The Intersection of Luxury and Streetwear
The Essentials Hoodie: The Perfect Blend of Comfort and Design
Expert Guidance: Benefits of Consulting a Psychiatrist For Anxiety Disorders