พาชม TANK 500 เอสยูวีที่ทั้งหรูและลุย หน้าตาสเปกไทยใช้เครื่องไฮบริด คาดขายปีหน้า

TANK 500 HEV (แทงค์ 500 เอชอีวี) เอสยูวีที่วางตำแหน่งตลาดไว้เป็นระดับกลางถึงใหญ่ อยู่ภายใต้แชสซีแบบบอดี้ออนเฟรม ที่ตั้งใจให้เป็นเอสยูวีที่มีความหรูหราพร้อมยังสามารถลุยแบบออฟโรดได้ดี ต่อกรกับ Toyota Land Cruiser ได้สบาย ๆ

โดยแบรนด์ TANK (แทงค์) คือแบรนด์ที่อยู่ภายใต้ GWM เช่นเดียวกันกับแบรนด์ Haval และ ORA โดยจะเน้นที่รถเอสยูวีสายลุยเป็นหลัก 

TANK 500 HEV เปิดตัวครั้งแรกในไทยที่งาน Motor Expo 2021 เมื่อปีที่แล้ว แต่ในครั้งนี้ได้เปิดให้ชาวไทยสัมผัสทั้งภายนอก-ใน ซึ่งคาดว่าหน้าตาแบบนี้จะใกล้เคียงกับที่จำหน่ายในบ้านเรา

ภายนอกที่หรูกว่ารถในตระกูลเดียวกัน 

ในส่วนของรูปลักษณ์ภายนอก Tank 500 มีกระจังหน้ารูปหกเหลี่ยมขนาดใหญ่และโดดเด่น ดีไซน์ลักษณะนี้ทำให้กระจังหน้าดูเป็นสามมิติ และไฟหน้าแบบ LED ขนาดค่อนข้างใหญ่ทั้งสองข้างนั้นดูเข้ากันดี

ส่วนของกันชนด้านหน้าจะมีลักษณะคล้ายกับเอสยูวีแบบออฟโรด แต่ทางผู้ผลิตได้ดีไซน์ให้ดูโค้งมน พร้อมกับพ่นสีให้มีสีเดียวกับตัวรถ ที่กันชนด้านหน้ายังมีไฟตัดหมอก LED มาให้ และแถบโครเมียมที่ตกแต่งก็ทำให้รถดูหรูหรากว่าเอสยูวีออฟโรดทั่วไป

ด้านข้างมีเส้นสายดูโค้งมน ไม่มีเหลี่ยมสันตั้งแต่ด้านหน้าไปยังด้านท้าย บังโคลนถูกทำให้เป็นสีเดียวกับตัวรถ และกรอบของหน้าต่างที่เป็นโครเมียมทำให้ตัวรถดูหรูหราอย่างที่ทางผู้ผลิตต้องการ

ในส่วนของด้านท้าย มีสปอยเลอร์ด้านท้ายและแร็คหลังคาซึ่งแสดงถึงความเป็นเอสยูวี แต่คันนี้จะมีเอกลักษณ์ที่ส่วนของไฟท้ายแบบแนวตั้ง พร้อมแถบโครเมียมแนวนอนเชื่อมทั้งสองฝั่ง 

นอกจากนี้ยังติดตั้งล้ออะไหล่ไว้ที่ประตูท้ายแบบรถออฟโรดคลาสสิค พร้อมติดกล้องมองหลังแทนกระจกเพื่อการมองด้านหลังที่ชัดเจนมากขึ้น

ภายในเน้นความหรูหรา

TANK 500 HEV มีการออกแบบภายในที่เน้นความหรูหราแตกต่างจากรถในตระกูลเดียวกัน ลำโพงคุณภาพระดับพรีเมียม และเบาะหนังที่ให้ความรู้สึกเรียบง่ายแต่หรูหราเหนือระดับ 

รถคันนี้มีการเข้า-ออกที่สะดวกสบาย เริ่มตั้งแต่เปิดประตู จะเห็นว่าบันไดข้างรถจากที่เก็บไว้แนบกับตัวถังรถก็ยื่นออกมา 

ภายในของ TANK 500 จะให้ความรู้สึกหรูหรา ในโทนสีน้ำเงินครีม มีหน้าจอดิจิตอลขนาด 12.3 นิ้ว หน้าจอกลางแบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว ด้านของคนขับจะมีพวงมาลัย 3 ก้านแบบมัลติฟังก์ชั่น 

เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า เบาะแถวที่สองกว้างขวางและสามารถปรับเอน มีม่านบีงแดดที่ดึงออกมาจากประตูได้ รวมถึงพับเพื่อเปิดทางไปยังเบาะแถวที่สามได้อย่างง่ายดาย

สำหรับพื้นที่เบาะแถวที่สามยังให้ความรู้สึกโปร่งเนื่องด้วยหน้าต่างที่ใหญ่ และเมื่อต้องการเพื่อพื้นที่สัมภาระ เบาะแถวนี้สามารถพับเรียบไปกับพื้นรถได้ด้วยปุ่มควบคุมไฟฟ้าด้านท้ายรถ

เข้าไทยต้องเครื่องไฮบริด

รถคันนี้มาพร้อมเครื่องยนต์แบบไฮบริด 2.0 ลิตรเทอร์โบพ่วงด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า จับคู่เกียร์อัตโนมัติ 9 สปีด ให้กำลังสูงสุด 346 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 615 นิวตันเมตร ต่างจากสเปกจีนที่เป็นเครื่องยนต์เบนซิน V6 ขนาด 3.0 ลิตรเทอร์โบ

ร่วมด้วยระบบขับเคลื่อนสี่ล้อและระบบช่วยขับขี่ที่เรียกว่า TANK Turn ที่ช่วยให้การเลี้ยวในที่แคบได้ง่ายขึ้น พร้อมด้วยระบบล็อกเฟืองไฟฟ้าด้านหน้าและด้านหลังช่วยป้องกันการลื่นไถล นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่แบบออฟโรดอีกมากมายซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนได้อัตโนมัติตามสภาพพื้นถนน 

สำหรับความปลอดภัยของรถคันนี้มีระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่น่าสนใจ เช่น ระบบเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ ระบบช่วยเหลือการเปลี่ยนเลนและการเปลี่ยนฉุกเฉิน ระบบควบคุมความเร็วแบบรักษาระยะห่างอัตโนมัติ และระบบช่วยหยุดรถเมื่อมีรถอยู่ในจุดอับสายตาขณะถอยหลัง

คาดขายไทยปีหน้า

จากการสอบถามพนักงาน iAM คนในหนึ่งในบูธ GWM พบว่า TANK 500 อาจจำหน่ายในไทยช่วงปีหน้า พร้อม ๆ กับ ORA Grand Cat ซึ่งถือว่าน่าสนใจสำหรับตลาดเอสยูวีขนาด 7 ที่นั่ง หากมีราคาที่เอื้อมถึงได้

สามารถรับชมรถคันนี้ได้ในงาน Thailand International Motor Expo 2022 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 เมืองทองธานี ตั้งแต่วันที่ 2-12 ธันวาคม 2565

อ่านเพิ่มเติม : พาชมบูธ GWM ครบทุกไลน์อัพ เปิดผ้าคลุมรถใหม่ 3 คัน ใน Motor Expo 2022

Source: พาชม TANK 500 เอสยูวีที่ทั้งหรูและลุย หน้าตาสเปกไทยใช้เครื่องไฮบริด คาดขายปีหน้า