- ต้นทุนการผลิตพุ่งขึ้นสูงตามราคาชิ้นส่วน
- ตลาดปลายเริ่มชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง
- มั่นใจรถไฟฟ้าไม่กระทบตลาดเชิงพาณิชย์
เป็นผู้นำในตลาดรถกระบะแบบใสสะอาดในช่วง 10 เดือนแรกของปี 2565 ด้วยส่วนแบ่งตลาดระดับ 46% พร้อมกับการเปิดตัวสินค้าใหม่ล่าสุดที่ได้รับการอัพเกรดมาอย่างมาก ซึ่งแน่นอนว่า การปรับตัวของ Isuzu (อีซูซุ) ย่อมนำมาซึ่งต้นทุนของการผลิตที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างมากในปัจจุบัน
ทาคาชิ ฮาตะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด เปิดเผยว่า ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นอาจจะส่งผลต่อการปรับราคาจำหน่ายของอุตสาหกรรมยานยนต์ในอนาคตอันใกล้ ซึ่งเป็นผลกระทบที่ผู้ผลิตรถยนต์ทุกรายต่างก็เผชิญในปัจจุบัน รวมถึงผู้ผลิตสินค้าอื่น ๆ ก็เช่นเดียวกัน
“อย่างไรก็ตาม อีซูซุจะพยายามปรับราคาให้ช้าที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แม้ที่ผ่านมาต้นทุนจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะขึ้นเมื่อไรหรือกี่เปอร์เซนต์ยังตอบไม่ได้ในขณะนี้ แต่เราจะทนให้ได้นานที่สุด เพื่อไม่ให้ลูกค้าต้องรับภาระการปรับราคา หรือหากจะต้องปรับจริงก็จะเป็นการปรับแบบค่อยเป็นค่อยไป”
การขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์และราคาที่สูงขึ้น
ปัญหาหลักของต้นทุนที่เพิ่มขึ้นสูงนั้น ยังมาจากการขาดแคลนชิ้นส่วน โดยเฉพาะเซมิคอนดัคเตอร์ที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมา ขณะที่รถยต์รุ่นใหม่ อาทิ Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) หรือ Isuzu MU-X (อีซูซุ มิว-เอ็กซ์) ก็มีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่เพิ่มเข้ามาทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้น และอีซูซุก็ได้ปรับราคาจำหน่ายไปแล้วบางส่วนตอนเปิดตัวในเดือนตุลาคม อย่างไรก็ตาม สินค้ารุ่นท็อปที่ใช้ชิ้นส่วนจำนวนมากก็ไม่เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคเช่นกัน และอาจจะต้องรอรถกันนานถึงปีหน้า ซึ่งต้องมาดูว่าปัญหาการขาดแคลนเซมิคอนดัคเตอร์จะคลี่คลายเมื่อใด
อ่านเพิ่มเติม: คู่มือซื้อ 2022 Isuzu D-Max Magic eyes ออพชั่นที่ได้เฉพาะรุ่นท็อป

ชี้ตลาดรถเริ่มชะลอตัวไตรมาสสี่ ส่งผลทั้งปีโตลดลง
สำหรับภาพรวมตลาดรถยนต์ในประเทศไทย พบว่ามีอัตราการเติบโตที่ลดลงนับตั้งแต่เดือนตุลาคมที่ผ่านมา ทำให้ตลาดรถยนต์ 10 เดือนแรกปิดไปที่ 698,508 คัน หรือคิดเป็นอัตราการเติบโต 16.8% อย่างไรก็ตาม คาดการณ์ว่าตลาดรวมรถยนต์ในปีนี้จะเติบโตรวมที่ 13% หรือมียอดขาย 8.6 แสนคัน ซึ่งปัจจัยที่ทำให้เติบโตลดลงเป็นผลมาจากผลกระทบจากเงินเฟ้อ การปรับตัวของราคาน้ำมัน ประกอบกับอุทักภัยที่ยังเกิดขึ้นในหลายภูมิภาคของประเทศไทย ที่ส่งผลต่อการตัดสินใจซื้อรถของผู้บริโภคเช่นเดียวกัน
อีซูซุครองตลาดปิกอัพแน่น มั่นใจเติบโตเหนือตลาด
สำหรับอีซูซุนั้นมียอดจำหน่ายที่เติบโตเหนือตลาด โดย 10 เดือนแรกของปี มียอดจำหน่ายรวม 177,714 คัน เติบโต 20.9% แบ่งออกเป็นดีแมคซ์ 148,784 คัน มีส่วนแบ่งตลาดปิกอัพ 46% สูงที่สุดเท่าที่บริษัทเคยทำได้ มิว-เอ็กซ์ 15,141 คัน และตลาดรถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ 13,789 คัน ขณะที่เป้าหมายการขายทั้งปีของอีซูซุอยู่ที่ 216,500 คัน คิดเป็นการเติบโต 17.6% และมีส่วนแบ่งตลาด 21% ซึ่งปัจจัยหลักในปีนี้ อยู่ที่ความสามารถในการผลิตสินค้า เพื่อรองรับกับความต้องการของผู้บริโภคที่มีอย่างต่อเนื่องให้ได้อย่างไร
อ่านเพิ่มเติม: เปิดตัว Isuzu D-Max X-Series และ THE NEW MU-X

มั่นใจอีวีไม่กระทบปิกอัพ แต่เริ่มรถบรรทุกปีหน้า
อีซูซุได้แสดงความเห็นถึงการเข้ามาของตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยว่า ยังไม่น่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมรถเชิงพาณิชย์มากนัก เนื่องจากตลาดอีวีในประเทศไทยยังเป็นกลุ่มรถยนต์ยังเสียมากกว่า ซึ่งการจะพัฒนาไปเป็นรถเชิงพาณิชย์ได้ จะต้องรอการพัฒนาด้านแบตเตอรี่ไปมากกว่านี้ ซึ่งบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นเองก็มีการใช้งบประมาณในการวิจัยและพัฒนาเรื่องการเป็นกลางทางคาร์บอนอยู่แล้ว และคาดว่าจะเริ่มต้นในส่วนของการพัฒนารถไฟฟ้าสำหรับรถบรรทุกขนาดกลางและใหญ่ ที่จะเปิดตัวในญี่ปุ่นปีหน้า แต่รถปิกอัพนั้นยังไม่มีแผนการที่ชัดเจน
Source: Isuzu แนะลูกค้าเร่งซื้อรถ หลังต้นทุนขึ้นต่อเนื่อง ลั่นตรึงราคานานสุด หวังลดผลกระทบลูกค้า

More Stories
Optimizing Route Planning with Courier Software
Site Oficial Para Cassino Online At The Apostas No Brasil
Site Oficial Para Cassino Online At The Apostas No Brasil