การซื้อรถใหม่ป้ายแดง ถือเป็นการซื้อเทคโนโลยีใหม่ และความสบายใจไร้การซ่อม โดยแลกกับการเป็นภาระหนี้ไฟแนนซ์นานหลายปี หรือแลกด้วยเงินดาวน์ก้อนใหญ่ ทำให้คนที่ไม่อยากเป็นหนี้ผ่อนรถ จะมีทางเลือกเป็นรถมือสอง ที่มีราคาขายเท่ากับจำนวนเงินดาวน์รถป้ายแดงรุ่นดังทั่วไป และยังมีคุณสมบัติทนทานซ่อมสบายหายห่วงแบบรถมือหนึ่งด้วย ไปดูกันว่าจะมีรุ่นใดตรงใจคุณหรือไม่
ทำไมต้องงบประมาณ 200,000 บาท
การกำหนดงบซื้อรถมือสองไม่เกิน 200,000 บาทนี้ มีที่มาจากช่วงราคารถใหม่ป้ายแดงรุ่นที่คนนิยมซื้อใช้กัน มักจะมีราคาอยู่ในช่วง 6-8 แสนบาท ซึ่งมีหลากหลายประเภทให้เลือก เช่น อีโค่คาร์, B-SUV, MiniMPV จนไปถึงรถกระบะตัวเริ่มต้น ก็ล้วนแต่มีราคาในระดับนี้ทั้งสิ้น โดยรถใหม่ราคาระดับนี้ มักจะถูกไฟแนนซ์บังคับใช้เงินดาวน์เริ่มต้นที่ 15 – 25% ซึ่งคิดเป็นเงินดาวน์ปรมาณ 1 – 2 แสน จึงเป็นที่มาของการใช้เงินก้อนมาหารถมือสองหลากหลายประเภทนั่นเอง
รถมือสองที่ซ่อมง่าย
การแนะนำรุ่นรถมือสองในบทความนี้ ตีความคำว่าน่าใช้จากความนิยม ที่ส่งผลต่อการแพร่หลายของแหล่งอะไหล่ ซึ่งเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้รถมือสอง ซ่อมง่าย เสียยาก ลบภาพจำว่ารถมือสองจะต้องเสียบ่อยซ่อมเยอะ ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องเป็นรถญี่ปุ่น ซึ่งน่าไว้ใจได้มากกว่ารถชาติอื่น ส่วนจะมีรุ่นอะไรเข้าข่ายบ้าง ไปดูกัน
Nissan Almera/March
ใครที่กำลังเล็งอีโค่คาร์ป้ายแดง ลองมาดูมือสองของนิสสัน 2 รุ่นนี้ มีทั้งแบบซีดาน Nissan Almera (นิสสัน อัลเมร่า) และแฮตช์แบ็ค Nissan March (นิสสัน มาร์ช) ซึ่งโฉมแรกในปี 2012 มีราคามือสองเริ่มต้น 120,000 บาทในสภาพขับได้มีทะเบียน หรืออยากได้สภาพสวย ปีใหม่ ก็เลือกโฉมไมเนอร์เชนจ์ตั้งแต่ปี 2014 ขึ้นมาก็มีราคามือสองอยู่ที่ 200,000 บาท ก็สามารถซื้อได้แล้ว
นิสสันทั้ง 2 รุ่นนี้ มีจุดต้องเช็คตรงที่ระบบพัดลมไฟฟ้า และตรวจคอมแอร์ว่าไม่มีรั่วซึม มีประวัติการเปลี่ยนลูกปืนล้อจะน่าวางใจมากขึ้น ข้อดีของรุ่นนี้คือ ประหยัดน้ำมัน ค่าซ่อมถูก อะไหล่เยอะ รอซ่อมแปบเดียวก็ได้รถกลับมาใช้งานแล้ว ส่วนกำลังเครื่องยนต์ 78 แรงม้าที่ดูเหมือนเป้นข้อเสีย แต่เมื่อใช้งานทางราบก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคใด ๆ เพียงแค่เร่งแซงหรือขึ้นทางชันจะอืดชัดเจน
Toyota Corolla Altis
หากใครคิดว่าอีโค่คาร์เล็กไป ก็ขยับขึ้นมาเป็นรถเก๋งในงบไม่เกิน 2 แสนนี้ก็จะเจอ Toyota Corolla Altis (โตโยต้า โคโรลล่า อัลติส) สามารถเลือกได้ทั้งโฉมหน้าหมู E120 เริ่มต้นปี 2002 กับตัวท็อปสุด 1.8G ที่มีระบบช่วยทรงตัว VSC มาให้อย่างรถสมัยใหม่ แถมด้วยข้อดีด้านความนุ่ม อะไหล่หาง่าย มีความทนทานของกลไกเครื่องยนต์ เพียงแต่ระวังเรื่องกล่อง ECU ไฟโชว์ ซึ่งสมควรแก่เวลาต้องไล่เปลี่ยนเซนเซอร์ภายในห้องเครื่องแล้ว
ในงบประมาณเท่ากันนี้ ยังสามารถเลือกรุ่นใหม่กว่าแต่เป็นรุ่นย่อยล่าง กับโฉมหน้าแบนรหัสตัวถัง E140 เริ่มต้นขายในปี 2008 สามารถซื้อรุ่น 1.6G เกียร์ออโต้แล้ว แต่ต้องดูเล่มดีๆ ว่าเป็นแท็กซี่ปลดป้ายมาหรือไม่ มีการติดแก๊ส หรือเปลี่ยนเล่มทะเบียนมาใหม่ ให้สงสัยไว้เลยว่าเคยเป็นรถรับจ้างมาก่อน สภาพโครงสร้างอาจจะเยินกว่ารถบ้าน
Toyota Innova
สำหรับคนชอบโดยสารเยอะ แนะนำ MPV ที่เหมาะมากนั่นคือ Toyota Innova (โตโยต้า อินโนว่า) แนะนำโฉมแรกปี 2004 ได้ความสะดวกสบายด้วยความกว้างขวาง เบาะแบบแยกส่วน เดินทะลุกลางรถไปเบาะแถวสามได้สบาย มีเกียร์ออโต้ให้เลือก ในราคามือสองอยู่ที่ 180,000-200,000 บาท แต่หากใครมีงบย่อมลงไป ก็จะได้พวกอดีตแท็กซี่ปลดป้าย เป็นเกียร์ธรรมดา ในราคาตั้งแต่ 120,000-160,000 แล้วแต่สภาพ ซึ่งเป็นข้อเสียที่ต้องทำใจว่า สภาพตัวถังมีโอกาสจะเจอรถช้ำกว่ารถบ้าน
Isuzu D-Max โฉมไฟตั้ง
คนชอบใช้รถกระบะต้องไม่พลาดที่จะมอง Isuzu D-Max (อีซูซุ ดีแมคซ์) ซึ่งมีข้อดีเรื่องความประหยัดและทนทานอยู่แล้ว นับเป็นรุ่นแรกของตัวอย่างการขยายขนาดตัวถังรถกระบะให้ใหญ่โตขึ้นในทุกมิติ ส่วนรายละเอียดภายในให้มีความใกล้เคียงรถเก๋งมากขึ้น อย่างเช่น วัสดุหุ้มเบาะเป็นกำมะหยี่ ภายในบุฉนวนกันเสียงรบกวนชนิดหนาพิเศษ พร้อมยางซีลขอบประตูแบบ 3 ชั้น และถุงลมนิรภัยคู่หน้า มาให้ด้วยตั้งแต่ในรุ่นปีที่เปิดตัว
การออกแบบรถกระบะให้มีความใกล้เคียงรถเก๋งอย่างนี้ มีความล้ำหน้าอย่างมาก จนกระทั่งคู่แข่งต้องทำตามออกมาในอีก 2 ปีต่อมา และเป็นกระแสการพัฒนารถกระบะของยี่ห้ออื่น ๆ จนถึงปัจจุบัน ตอนนี้มีราคามือสองในตัวถังสเปซแคปโฉมแรก อยู่ราว ๆ 1 แสนกลาง ๆ ส่วนดับเบิ้ลแค็ปต้องมีราคา 2 แสนบาทขึ้นไป แต่มันก็เป้นรถที่ไม่ได้มีราคาขายต่อตกฮวบได้ง่าย ซื้อใช้ได้อย่างคุ้มค่าเงินที่สุดแล้ว
อ่านเพิ่มเติม : มือสองต้องรู้ Isuzu D-Max โฉมไฟตั้ง คือกระบะที่คุ้มเงินที่สุดในตอนนี้ มีโฉมใดน่าเล่น รวมรุ่นย่อยเด่นที่นี่
Honda CR-V เจน 2
รถอเนกประสงค์ยกสูงแบบ SUV ในงบเท่านี้แล้วได้รถซ่อมง่าย ก็จะเหลือเพียง Honda CR-V (ฮอนด้า ซีอาร์-วี) เจเนอเรชั่นที่ 2 ซึ่งเป็นปีเก่าสักหน่อย แต่ก็ยังมีดีหลายอย่าง เช่น เครื่องยนต์ K20 ที่ยังมีอะไหล่รองรับในปัจจุบัน มีรุ่นเบาะแถว 3 ขนาดเล็กเป็นครั้งแรก หาซื้อทั้งคันได้ในราคา 130,000-180,000 บาท ถ้าหากขยับงบขึ้นอีกนิดจะได้โฉมไมเนอร์เชนจ์แล้ว ได้ความแรงจากเครื่อง K24 ที่ซ่อมง่ายอะไหล่เยอะไม่แพ้กัน ในราคามือสอง 180,000-200,000 กว่าบาท ได้ความแรงที่แลกมาด้วยค่าน้ำมันเพิ่มอีกเล็กน้อยด้วย
รถรุ่นอื่นๆ ที่น่าสนใจรองลงไป
ไม่เพียงแค่ 6 รุ่นยอดนิยมในลิสต์นี้เท่านั้น ยังมียี่ห้อรองลงไป ที่อาจจะไม่ได้มีจุดเด่นเทียบเท่ากับรถเหล่านี้ เช่น Toyota Vios หรือ Honda City ที่มีปีเก่ากว่าและแคบกว่า Almera 2012 ส่วนรถกระบะก็มี Toyota Hilux Vigo ที่ต้องทำใจว่ามีราคาสูงเล็กน้อย หรือจะเป็นรถเก๋ง Honda Civic ที่มีค่าซ่อมถูกและทนทานไม่เท่ากับ Altis รถรุ่นเหล่านี้ ก็น่าซื้อหามาใช้ได้ไม่แพ้กัน เพียงแต่ต้องเน้นว่าสภาพสวยจัด เดิมกริ๊ปๆ ในราคาเท่ากัน ทำให้เรามีตัวเลือกในการซื้อมากขึ้น
ไม่ว่าคุณจะซื้อรถรุ่นใดมาแล้ว อย่าลืมตรวจสอบถุงลมนิรภัยได้ที่เว็บไซต์ checkairbag ค้นหาด้วยเลขตัวถังรถของจนเอง แล้วนำไปค้นหาในเว็บดังกล่าว เพื่อตรวจสอบว่าถุงลมรถเราถูกเปลี่ยนมาหรือยัง มิฉะนั้นหากเกิดอุบัติเหตุแล้ว ถุงลมจะดีดชิ้นส่วนโลหะออกมาทำร้ายคนขับได้
อ่านเพิ่มเติม : เทียบรถมือสองสุดหรูในงบ 3 แสน Camry, Accord และ Teana คุณเหมาะกับแนวไหนที่สุด ?
Source: 5 รถมือสอง ราคาเท่าเงินดาวน์รถใหม่ คุ้มที่จะซื้อมาซ่อมไหม หรือจะไปเป็นหนี้ผ่อนป้ายแดง ?
More Stories
Hellstar Streetwear: Gear Up to Stand Out
Turkey Visa Free Countries and Process
Allison Transmission for Off-Roading: Performance Insights and Upgrades